วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

โครงสร้างระบบคอมพิวเตอร์ และโครงสร้างของระบบปฏิบัติการ


ใบงานที่ 9
โครงสร้างระบบคอมพิวเตอร์ และโครงสร้างของระบบปฏิบัติการ

1.การขัดจังหวะ หรือการอินเตอร์รัปต์ หมายถึงอะไร จงอธิบาย

2.จงเปรียบเทียบการอินเตอร์รัปต์ กับการดำเนินชีวิตของมนุษย์โดยทั่วไป ว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร
      =การติดต่อเพื่อรับส่งข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ก็เหมือนกันกับการดำรงชีวิตของมนุษย์ในแต่ละวัน มนุษย์จะติดต่อสื่อสารกันในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น ติดต่อกันเพื่อทำการค้าขาย พูดคุยกัน อย่างนี้เป็นต้น

3.สาเหตุที่การป้องกันฮาร์ดแวร์ มีบทบาทสำคัญต่อระบบปฏิบัติการที่รองรับหลายๆ งาน อยากทราบว่าเป็นเพราะอะไร จงอธิบาย
=เพื่อป้องกันการเรียกใช้อุปกรณ์รับ-ส่งข้อมูลแบบผิด ๆ หรืออ้างอิงตำแหน่งในหน่วยความจำที่อยู่ในส่วนของระบบปฏิบัติการ หรือไม่คืน การควบคุมซีพียูให้ระบบซึ่งมีการกำหนดว่าคำสั่งเรียกใช้อุปกรณ์รับ-ส่งข้อมูลเป็นคำสั่งสงวน (Privileged Instruction) ผู้ใช้ไม่สามารถเรียกใช้อุปกรณ์เองได้ ต้องให้ระบบปฏิบัติการเป็นผู้จัดการให้

4.จงเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโหมดการทำงานของผู้ใช้ กับโหมดการทำงานของระบบมาให้พอเข้าใจ
=ผู้ใช้ก็จะทำงานเหมือนกับคอมพิวเตอร์ เราจะรับข้อมูลจาก ตา หู จมูก ปาก แล้วก็สมองจะทำการประมวลผลสิ่งที่เราดู ได้ยิน ได้กลิ่น หรือรับรส แล้วก็จะแสดงจากทางอาการหรือคำพูด ก็เหมือนคอมพิวเตอร์ที่รับข้อมูลจากเมาส์ คีย์บอร์ด แล้ว CPU ก็ทำการประมวลผล จากนั้นก็แสดงผลในรูปของเสียงหรือภาพ

5.ระบบปฏิบัติการจะมีการป้องกันอินพุต และเอาท์พุตอย่างไร จงอธิบาย
      =กลไกในการอ้างอิงหน่วยความจำหลัก ป้องกันกระบวนการให้ใช้หน่วยความจำหลักได้แต่ในส่วนของกระบวนการนั้นเท่านั้น เช่น การไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ระบบทำการรับส่งข้อมูลเองโดยตรง เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการใช้งานของอุปกรณ์รับส่งข้อมูล

6.ระบบปฏิบัติการจะมีการป้องกันหน่วยความจำอย่างไร จงอธิบาย
      =กลไกในการอ้างอิงหน่วยความจำหลัก ป้องกันกระบวนการให้ใช้หน่วยความจำหลักได้แต่ในส่วนของกระบวนการนั้นเท่านั้น

7.ระบบปฏิบัติการจะมีการป้องกันซีพียูอย่างไร จงอธิบาย
=ระบบต้องมีการป้องกัน ความผิดพลาดที่เกิดจากกระบวนการหนึ่งไปกระทบอีกกระบวนการหนึ่ง โดยสร้างกลไกบางอย่างเพื่อป้องกันแฟ้มข้อมูล, หน่วยความจำส่วนหนึ่งหรือหน่วยประมวลผลกลาง




8.โครงสร้างของระบบปฏิบัติการประกอบด้วยกี่ส่วน อะไรบ้าง
=ระบบปฏิบัติการประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1. เคอร์เนล (Kernel) หมายถึง ส่วนกลางของระบบปฏิบัติการ ซึ่งเป็นส่วนแรกที่ถูกเรียกมาใช้งาน และจะฝังตัวอยู่ในหน่วยความจำหลักของระบบ ดังนั้นเคอร์เนลจึงต้องมีขนาดเล็ก โดยเคอร์เนลจะมีหน้าที่ในการติดต่อ และควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ และโปรแกรมใช้งาน (Application Programs)
2.โปรแกรมระบบ (System Programs) คือ ส่วนของโปรแกรมการทำงานของระบบปฏิบัติการ ซึ่งมีหน้าที่ติดต่อกับผู้ใช้ และผู้จัดการระบบ เช่น Administrator

9.ในการจัดการกับโปรเซส ระบบปฏิบัติการจะมีกิจกรรมใดบ้างที่ต้องรับผิดชอบ
=การจัดการงานที่เราจะทำการประมวลผล ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลแบบการแบ่งเวลา หรืออื่นๆ โดยแต่ละโปรเซสจะมีการกำหนดการใช้ทรัพยากรที่แน่นอน

10.ในการจัดการกับหน่วยความจำ ระบบปฏิบัติการจะมีกิจกรรมใดบ้างที่ต้องรับผิดชอบ
=การจัดการหน่วยความจำจัดเป็นหน้าที่หนึ่งของระบบปฏิบัติการ หน่วยความจำนี้เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการพิจารณาขีดความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย  กล่าวคือถ้าหากคอมพิวเตอร์มีความจำมาก  นั้นหมายถึงขีดความสามารถในการทำงานก็จะเพิ่มขึ้นโปรแกรมที่มีสลับซับซ้อนและมีสมรรถนะสูง มักจะเป็นโปรแกรมที่ต้องการหน่วยความจำสูง แต่ก็เป็นที่ทราบแล้วว่าหน่วยความจำมีราคาแพง ดังนั้นระบบปฏิบัติการที่ดีจะต้องมีการจัดการหน่วยความจำที่มีอยู่จำกัด ให้สามารถรองรับงานต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้หน่วยความจำจำนวนมากได้

11.ในการจัดการกับแฟ้มข้อมูล ระบบปฏิบัติการจะมีกิจกรรมใดบ้างที่ต้องรับผิดชอบ
=เป็นการทำงานของระบบปฏิบัติการโดยทำหน้าที่ในการโอนถ่ายข้อมูลลงไปจัดเก็บในอุปกรณ์บันทึกข้อมูล

12.ในการจัดการกับอุปกรณ์อินพุต/เอาต์พุต ระบบปฏิบัติการจะมีกิจกรรมใดบ้างที่ต้องรับผิดชอบ
=ระบบปฏิบัติการมีหน้าที่ในการรับข้อมูล และแสดงข้อมูลผ่านทางอุปกรณ์ต่างๆ โดยข้อมูลที่ส่งไปยังอุปกรณ์เหล่านี้ จะผ่านสายส่งข้อมูล

13.ในการจัดการกับหน่วยความจำสำรอง เช่น ดิสก์ ระบบปฏิบัติการจะมีกิจกรรมใดบ้างที่ต้องรับผิดชอบ
=ระบบปฏิบัติการทำหน้าที่โอนถ่ายข้อมูลไปจัดเก็บในอุปกรณ์บันทึกข้อมูล

14.จงสรุปงานบริการของระบบปฏิบัติการมาพอเข้าใจ
=ระบบปฏิบัติการจะเป็นเหมือนตัวกลางที่เชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับผู้ใช้งาน จะรับข้อมูลทางเมาส์หรือคีย์บอร์ด จากนั้นจะส่งไปยัง CPU เพื่อให้ประมวลผลออกมา แสดงผลจะอยู่ในรูปของเสียงหรือภาพ

15.ในการติดต่อระหว่างโปรเซสกับระบบปฏิบัติการ จะเกี่ยวข้องกับกลุ่มงานใดบ้าง จงอธิบาย
=สถานะของโปรเซส (Process Status)ก็จะมี  สถานะเริ่มต้น (New Status) ,สถานะพร้อม (Ready Status) ,สถานะรัน (Running Status),สถานะรอ (Wait Status),สถานะบล็อก (Block Status)และสถานะสิ้นสุด (Terminate Status)

วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

แก้ปัญหา NTLDR is missing Press Ctrl + Alt + Del To Restart,โปรแกรมพื้นฐานที่ควรมีไว้ในคอมพิวเตอร์

วิธีแก้ NTLDR is missing Press Ctrl + Alt + Del To Restart

ไฟล์ ntldr.exe เป็นไฟล์ที่สำคัญตัวนึงในการเริ่มการทำงานของระบบ Windows XP เมื่อมันสูญหายไป ก็จะทำให้พบข้อความ NTLDR is Missing.

วิธีแก้ไข
นำ trumb driver ไป copy file
ntldr, boot.ini, ntdetect.com
โดยหาได้จาก Drive C: หรือใน C:WINDOWS ของ Window XP ทุกเครื่อง
เตรียมแผ่น windown XP sp1 ใส่ CD-ROM ไว้เลย
(เพราะ sp 1 มันมีไฟล์บูตแยะกว่า sp2 เนื่องจากแผ่นที่วางขายตัดระบบไฟล์ออกไป ไฟล์ระบบ sp1 เลยแยะกว่า)



บูทเครื่องเข้าไป เช็คไปออส ให้บูทจาก CD-ROM เป็นอันดับแรก ทำยังไงก็เวลาบูต กดปุ่ม Del เอาไว้ บางบอร์ดต้องกดปุ่ม F2 จะมีหน้าจอสีฟ้าๆขึ้นมา เลือกหา boot แล้วเลือก CD-ROM เป็น fist boot

จากนั้น ดำเนินการต่อไปนี้

1. เมื่อหน้าจอขึ้นคำว่า "Windows XP Professional Setup" ให้หาคำว่า To repair a Windows XP installation using Recovery Console, press R. ก็ให้กดที่ตัวอักษร R

2. เมื่อหน้าจอขึ้นคำว่า Microsoft Windows XP (TM) Recovery Console..........Which windows installation would you like log on to ให้กดที่ Num Lock จนติดไฟ แล้วกดหมายเลข 1 แล้วกด Enter

3. ถ้าเครื่องให้ Type the Administrater password: ให้กด Enter

4. ที่ c:windows> ให้พิมพ์คำว่า cd เว้นวรรคหนึ่งตัวอักษร แล้วพิมพ์จุดสองจุด จากนั้นให้กด Enter

5. ตรวจดูไฟล์ที่ trumb driver โดยพิมพ์ ชื่อไดร์ เช่น F:dir แล้วกด Enter

6. จากนั้น เปลี่ยนเป็น c:> ให้พิมพ์คำว่า copy F:boot.ini แล้วกด Enter

7. หลังจากที่ไฟล์ boot.ini ได้บันทึกลงที่ไดรฟ์ C: ของเครื่องแล้ว ที่ c:> ให้พิมพ์คำว่า copy F:ntldri แล้วกด Enter

8. หลังจากที่ไฟล์ ntldr ได้บันทึกลงที่ไดรฟ์ C: ของเครื่องแล้ว ที่ c:> ให้พิมพ์คำว่า copy F:ntdetect.com แล้วกด Enter

9. หลังจากที่ไฟล์ ntdetect.com ได้บันทึกลงที่ไดรฟ์ C: ของเครื่องแล้ว ที่ c:> ให้พิมพ์คำว่า exit จากนั้นให้นำแผ่น Disk ออกจากเครื่อง แล้วกด Enter

10. หากท่านได้ทำตามคำแนะนำตั้งแต่ต้นจนจบ เครื่อง XP จะบู๊ตได้ตามปกติ 






อีกสาเหตุหนึ่งของ NTLDR is missing 

คือ บูตฮาร์ดดิสไม่ถูกตัว
หมายถึงไม่ได้ถูกบูตด้วย ฮาร์ดดิสที่มีไฟล์ system หรือตัวที่ถูกติดตั้งระบบwindows นั่นเอง

กรณีนี้ไบออสอาจมีความผิดพลาด เช่น เกิดจาก ไฟกระชาก

ให้บูตเข้าไบออสด้วยการกดปุ่ม Delete หรือ Del หรือ F2 ในบางเมนบอร์ด
เพื่อทำการเลือกบูตฮาร์ดดิสให้ถูกตัว


ถ้าเป็น ฮาร์ดดิสแบบ SATA ให้เลือกที่ Boot drive (คำสั่งบูตตัวที่2) เพราะการมอง ฮาร์ดดิสจะแตกต่างกับ ฮาร์ดดิสทั่วๆไป
เมื่อเลือกเสร็จแล้ว (ต้องจำให้ได้ว่า ฮาร์ดดิสตัวไหนมีวินโดอยู่ จำไม่ได้ก็ลองไปเรื่อยๆ)
จากนั้น save แล้วบูตเครื่องใหม่ ก็จะใช้งานได้ตามปกติ




โปรแกรมพื้นฐานที่ควรมีในคอมพิวเตอร์
1. Anti-virus ในทุกๆเครื่องควรมีโปรกรม Antivirus ติดเครื่องเพื่อป้องกันไวรัสที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆได้ เช่น Eset Nod32,Avira Antivir,Kerparsky,AVG,McAfee,Norton
2.Microsoft Office โปรแกรมนี้ทุกคนรูจักอยู่แล้ว ซึ่งมีทั้ง MS word,powerpoint,Excel และอื่นๆอีกมากมาย
3.โปรแกรมดูหนัง ฟังเพลง เพื่อความบันเทิงต่างๆ เช่น PowerDVD Winamp
4.โปรแกรมดูรูปภาพ ตกแต่งรูปภาพ ถ้าใครเป็นนักแต่งภาพต้องมีโปรแกรมชนิดนี้ เช่น ACD See,Photoshop,Photoscape
5.โปรแกรมช่วยดาวน์โหลด สำหรับนักดาวน์โหลด เช่น Flashget,Orbit,Internet download manager,Utorrent
6.โปรแกรมเสริมหรือช่วยจัดการกับระบบคอมพิวเตอร์ของเรา เช่น CCleaner,TuneUp Utilities
7.โปรแกรมอ่านไฟล์หรือแตกไฟล์ต่างๆ เช่น Adobe Acrobat,Foxit Reader,Winzip.7-Zip
8.โปรแกรม write CD หรือจัดการกับ CD ต่างๆ เช่น Nero,Ashampoo

วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คุณสมบัติความจำโครงสร้างคอมพิวเตอร์


Cache คืออะไร
     Cache คือหน่วยความจำอย่างนึง มีความเร็วในการเข้าถึงและการถ่ายโอนข้อมูลที่สูง ซึ่งมีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลที่เราต้องการจะใช้งานบ่อยๆ เพื่อเวลาที่ CPU ต้องการใช้ข้อมูลนั้นๆ จะได้ค้นหาได้เร็ว โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องไปค้นหาจากข้อมูลทั้งหมด
ซึ่งทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลของเราได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
Cache มี 2 แบบคือ
1.disk cache คือการเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำหลักของเราก่อน เมื่อ CPU ต้องการจะหาข้อมูล ก็จะหาใน dish cache ก่อนแล้วค่อยเข้าไปค้นหาใน Harddisk
2.Memory cache จะดึงข้อมูลมาเก็บไว้ใน memory ซึ่งจะถึงขอ้มูลได้รวดเร็วกว่า แต่มีความจำที่เล็กกว่า 
     เพราะฉะนั้นถ้า คอมพิวเตอร์เครื่องใดที่มี cache ความเร็วสูงก็จะเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย แต่อย่างไรก็ตามยิ่งขนาดใหญ่ก็เก็บข้อมูลได้เยอะ แต่การเข้าถึงจะช้ากว่า cache ที่มีขนาดเล็ก   ระบบ Cache นอกจาก ใน computer แล้ว ระบบ Cache ยังเอามาใช้งานบนเว็บ ด้วย CMSส่วนใหญ่จะมีระบบ Cache เพื่อลดภาระการทำงานของฐานข้อมูลลง
น่วยคจำแบ
หน่วยความจำแบบไดนามิกแรม   
      เป็นแรมที่มีโครงสร้างแตกต่างจากสแตติกแรม ทำให้สามารถมีความจุสูงกว่าสแตติกแรม 4 เท่า ทำให้กินกำลังไฟฟ้าในการทำงานน้อยกว่าสแตติกแรมอยู่ในเกณฑ์ 1/4 ถึง 1/6 เท่าของสแตติกแรม ซึ่งเมื่อเทียบราคาต่อบิตแล้วราคาจะสูง สแตติกแรมจึงถูกนำมาใช้ในหน่วยความจำขนาดเล็ก เช่น ระบบไมโครโปรเซสเซอร์ เป็นต้น การควบคุมกระบวนการทำงานของไดนามิกแรม ต้องมีวงจรรีเฟรชหน่วยความจำ
        โครงสร้างทั่วไปของไดนามิกแรมแสดงในรูปที่ 12.13 เป็นไดนามิกแรมขนาด 16k x 1 (16,384 Cell = 2   ) มีขนาดอาร์เรย์ของเซลล์เป็นแมทริกซ์ขนาด 128 x 128 อาร์เรย์ แต่ละเซลล์จะบอกตำแหน่งของแอดเดรสโดยตัวถอดรหัสแถว และตัวถอดรหัสคอลัมน์ขนาด 1 - to - 128 ดังนั้นแอดเดรสอินพุตของตัวถอดรหัสแถวจะมีขนาด 7 เส้น (A   - A  ) และ ตัวถอดรหัสคอลัมน์จะมีแอดเดรส 7 เส้นเช่นกัน (A    - A  ) รวมทั้งสิ้นมีแอดเดรสขนาด 14 บิต


หน่วยความจำแบบสแตติกแรม
หน่วยความจำแบบสแตติกแรม

        เป็นแรมที่มีฟลิบฟลอบเป็นตัวเก็บข้อมูลภายในแต่ละบิต ดังนั้นข้อมูลที่เก็บอยู่ภายในสแตติกแรมจะไม่สญหายไปจนกระทั่งสแตติกแรมไม่ได้รับแรงดันไบอัสฟลิปฟลอปภายในสแตติกแรมมี 2 แบบ คือ แบบที่ใช้ไบโพล่าร์ทรานซิสเตอร์ และแบบที่ใช้มอสทรานซิสเตอร์ ซึ่งชนิดที่เป็นมอสทรานซิสเตอร์จะกินกำลังไฟฟ้าน้อยกว่าชนิดไบโพล่าร์ทรานซิสเตอร์

การทำงานของสแตติกแรม
        สแตติกแรมส่วนมากใช้ต่อภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ และต่อใช้งานโดยการควบคุมของซีพียู ในการอ่านหรือเขียนข้อมูลภายในสแตติกแรมจะใช้ความเร็วสูงมากซึ่งเท่ากับความเร็วซีพียู ดังนั้นการนำสแตติกแรมและชิปที่ใช้ควบคุมไปใช้ร่วมกับซีพียูใดๆ จะต้องศึกษาคู่มือของแรมให้ละเอียด เวลาการทำงานของสแตติกแรมแบ่งเป็นรอบการอ่านข้อมูลและรอบการเขียนข้อมูล


วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ธันวา ก้านทอง


ใบงาน
เรื่อง  ค่าแรงดันไฟฟ้าตามสีของสายในเพาเวอร์ซับพลาย
คำชี้แจง  ให้นักศึกษาบอกค่าแรงดันไฟฟ้า  ตามสีของสายไฟในเพาเวอร์ซับพลาย


ที่
รายการ
ค่าแรงดันไฟฟ้า
หน่วย(Volt)
1
สายสีส้ม
3.3 V
Volt
2
สายสีดำ
Ground
GND
3
สายสีเหลือง
12V
Volt
4
สายสีเขียว
PS_NO#
PS-ON
5
สายสีน้ำเงิน
-12 V 
Volt
6
สายสีขาว
 -5 V
Volt
7
สายสีแดง
5V 
Volt
8
สายสีม่วง
+5VSB
VSB
9
สายสีเทา
standby 5 V
Volt
10

สายสีน้ำตาล
12 V
Volt